ทำไมต้องโรเดียม
ก่อนอื่นอยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลหะ 2 ชนิดนี้ก่อนค่ะ
1. โรเดียม (Rodium)
2. นิกเกิล (Nickel)
โรเดียม vs นิกเกิล
1.โรเดียม (Rhodium) เป็นโลหะสีขาวเงินที่มีราคาสูง เป็นแร่หายากในกลุ่มของแพลตทินั่ม โรเดียมมีราคาแพง (ประมาณ 24,500 USD/kg - ข้อมูลปี 2015) และมีความอ่อนตัวสูง ทำให้ไม่สามารถขึ้นรูปเป็นตัวเรือนได้ แต่ด้วยคุณลักษณะที่มี
ความขาวแวววาว จึงถูกนำมาใช้เป็นน้ำยาชุบเคลือบบนโลหะชนิดต่างๆทั้งโลหะ เงิน ทองเหลือง สแตนเลส ดีบุก หรือ
แม้แต่งานทอง (Gold) หรือทองขาว (White Gold) ก็ยังนิยมชุบโรเดียมด้วยกันทั้งสิ้น ในวงการเครื่องประดับจะใช้เป็น
น้ำยาชุบเคลือบผิวงาน เพื่อให้งานขาว มีความมัน ความเงางามมากยิ่งขึ้นค่ะ
2.นิกเกิล (Nickel) เป็นโลหะที่มีความมันวาว สีขาวเงิน เช่นเดียวกับโรเดียม มีคุณสมบัติต้านทานการเกิดออกซิเดชั่น
และต้านทานการกัดกร่อนสูง การใช้งานโลหะนิกเกิลส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมและเหล็กกล้า
ผสม รวมถึงนำมาชุบเคลือบผิวเครื่องประดับด้วย เพราะสามารถกลบความหยาบของตัวเรือน หรือกลบตามดได้เป็นอย่าง
ดี ลดงานในขั้นตอนการขัดเงาตัวเรือนได้มาก ทำให้งานผลิตเสร็จไว แต่ข้อเสียที่ร้ายแรงคือ นิกเกิลเป็นสารอันตรายที่อาจ ก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้ผิวหนัง ทำให้ผู้ที่สวมเครื่องประดับเกิดอาการผื่นคัน บวมแดง หรือเป็นแผลอักเสบได้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรเดียม
เครื่องประดับราคาถูก ที่ผู้ขายมักแจ้งว่าชุบโรเดียม แต่ความจริงแล้วเป็นการชุบนิกเกิลผสมกับโลหะชุบเคลือบต่างๆ เพราะ ต้องการลดต้นทุนการผลิต ทำให้ผู้สวมใส่จำนวนไม่น้อยเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง บางคนถึงขั้นเข้าใจผิดว่าแพ้โรเดียม แต่ ความจริงแล้วเป็นการแพ้สารนิกเกิลที่ผสมลงไปในน้ำยาชุบนั่นเอง จากอันตรายของสารนิกเกิลดังกล่าว ทำให้หลาย ประเทศออกกฎหมายห้ามนำเข้าเครื่องประดับที่มีสารนิกเกิลเป็นส่วนผสมโดยเด็ดขาด โดยระบุว่าผลิตภัณฑ์จะต้องเป็น Nickel Free หรือ ปราศจากนิกเกิลเท่านั้น
